วันเดย์ทริป ไปเช้าเย็นกลับ กับรถไฟสายน้ำตกไทรโยคน้อย

วันเดย์ทริป

สำหรับ วันเดย์ทริป นี้เราจะมาแนะนำการท่องเที่ยวที่เหมาะกับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการนั่งรถมาเป็นการนั่งรถไฟ และเป็นคนที่อยากเที่ยวแต่ไม่ค่อยมีเวลา trip นี้ของเราจะเริ่มจากการขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพงโดยเป็นเวลาเช้าตรู่ รถไฟจะออกจากชานชาลาในเวลา 06.30 น. โดยเมื่อมาถึงหัวลำโพงแล้วให้เรามองหารถไฟขบวนที่ 909 เลขขบวนก็สวยกันไม่น้อยเลยทีเดียว ถือว่าเป็นการท่องเที่ยวแบบ วันเดย์ทริป กันไปเลย

วันเดย์ทริป

เมื่อถึงเวลารถไฟก็จะแล่นออกจากสถานี สำหรับขบวน 909 นี้ก็มีทั้งแบบนั่งแอร์ และนั่งพัดลม สำหรับ Trip นี้เราเลือกแบบนั่งพัดลมเพื่อจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของสายลม ท้องฟ้าและแสงแดดได้อย่างเต็มที่ แล่นมาไม่นานรถไฟก็จอดที่สถานที่เที่ยวแรก นั่นคือ พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ในทุกครั้งที่จอดจะมีเจ้าหน้าที่แสนใจดีมาดเท่ห์มาประกาศว่าให้เวลาเท่าไรในการแวะและจะต้องมาเจอกันเพื่อเดินทางต่อในเวลาเท่าไร เมื่อลงจากรถไฟเราก็ไม่รอช้ารีบจ้ำอ้าวไปนมัสการพระปฐมเจดีย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครปฐมกันก่อนเลย เมื่อมาถึงพระปฐมเจดีย์เราก็ขอแนะนำให้นมัสการเพียงด้านหน้าเพราะหากเข้าไปด้านในอาจไม่ทันเวลาที่รถไฟออก

อาจจะกลายเป็น one day trip ในสถานที่เดียวแทน และอีกประการที่ไม่แนะนำให้เข้าไปด้านใน เพราะประตูทางเข้านั้นมีหลายประตูลักษณะค่อนข้างคล้ายกันอาจทำให้เกิดความสับสนในประตูที่เราเข้าไปได้ เมื่อนมัสการพระปฐมเจดีย์เสร็จแล้วเราก็มาแวะตลาดที่เดินผ่านเมื่อสักครู่กันสักหน่อยเพื่อตระเตรียมอาหารเช้าของวัน จากนั้นเราก็พร้อมเดินทางสู่สถานที่ถัดไปกันเลย สถานีที่ถัดไปที่รถไฟจอดให้เราได้ท่องเที่ยวและเก็บภาพความประทับใจคือสะพานแควน้อย สะพานเหล็กสุดคลาสิกที่มองเห็นแม่น้ำแควน้อย จากนั้นเราก็แล่นกันต่อไปยังน้ำตกไทรโยคน้อยกัน โดยเราจะผ่านแม่น้ำแควที่มีลักษณะลดเลี้ยวเคี้ยวคดเปรียบได้กับแม่น้ำอเมซอนเมืองไทยเลยก็ว่าได้

วันเดย์ทริป เที่ยวสบายๆ สไตล์คนสายชิล

วันเดย์ทริป

จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ของรถไฟมาบริการรับสั่งสินค้าของฝากโดยมากจะเป็นอาหารดังในแต่ละจังหวัดโดยสินค้าของฝากเหล่านี้ เราจะได้รับในขากลับหรือง่ายๆ ก็คือ อาหารมื้อเย็นบวกของฝากคนที่บ้านนั่นเอง แล้วรถไฟก็แล่นมาถึงจุดไฮไลต์อีกจุดนั่นคือ ถ้ำกระแซ ในส่วนนี้จะมีช่วงที่รถไฟแล่นช้าๆ เพื่อให้ผู้โดยสารได้เอามือแตะหน้าผาแล้วอธิษฐานจากนั้นนำมาแตะหน้าผาก โดยส่วนนี้จะมีเจ้าหน้าที่รถไฟคอยบรรยายและบอกจุดกำกับว่าจุดไหนสามารถยื่นมือออกไปได้ เจ้าหน้าที่รถไฟยังบอกอีกว่าขบวน 909 นี้เคยมีผู้อธิษฐานแล้วถูกรางวัลมาแล้วแต่เท่าไรนั้นขออุปไว้

วันเดย์ทริป

พร้อมบอกอีกว่าไม่แน่ในขบวนนี้อาจมีผู้ถูกรางวัลรายถัดไป เรียกเสียงเฮ ให้กับผู้โดยสารในขบวนได้เป็นอย่างดี และหากนั่งตู้แอร์กิจกรรมแตะหน้าผาอธิษฐานก็ต้องอดไปเพราะตู้แอร์ไม่สามารถเปิดหน้าต่างได้ และแล้วเราก็มาถึงน้ำตกไทรโยคน้อยกัน เมื่อถึงขากลับก็มาถึงจุดไฮต์ไลท์นั่นคือ สุสานทหารพันธมิตรในส่วนนี้เราต้องแอบกระซิบก่อนว่าไม่ใช่รถไฟสายน้ำตกไทรโยกน้อยทุกขบวน 909 จะได้แวะเที่ยวเพราะเจ้าหน้าที่ต้องควบคุมการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามระยะเวลาที่เหมาะสม แต่ก็เป็นโชคดีของ trip นี้ที่เราได้แวะ จากนั้นรถไฟก็จะแล่นยาวๆ และสิ้นสุดที่สถานีหัวลำโพง เป็นอันจบ one day trip ที่ได้ทั้งบรรยากาศ ความสนุก ของอร่อยๆ และ อาจได้รางวัลที่ 1 ตามมาด้วยก็ได้ นี่ถือว่าเป็นการเที่ยวในประเทศไทยที่คุ้มค่ากับเวลาสุด ๆ