“ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว ”

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ช่วงนี้เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ กับสถานการณ์ที่เจอกันอยู่ทุกวันนี้ หลายๆท่านคงจะมีความหดหู่ใจ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นและอาจจะรู้สึกใจคอไม่ดีกระวนกระวายใจใช่หรือเปล่าค่ะ หรือบางท่านอาจจะคิดมากด้วยซ้ำว่าเมื่อไหร่เราจะเป็น หรือเมื่อไหร่มันจะหายๆไปซักที กับโรคโควิด-19

แต่อาทิตย์นี้ก็อาจจะทำให้หลายๆคนใจชื้นขึ้นมาบ้างด้วยยอดที่ของผู้ที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 คน ต่อวัน แต่อย่างไงพวกเราก็อย่างเพิ่งวางใจนะคะ ยังไงเราทุกคนก็จะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ทางรัฐบาลประกาศออกมา

                 เพราะด้วยเหตุการณืดังกล่าว ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ประเทศไทยเป็นปีแรกมนประวัติศาสตร์ที่ไม่มีการจัดการประเพณีสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยของเรานั่นเอง แต่ไม่เป็นไรนะคะ ถึงแม้ปีนี้เราจะไม่มีงานเทศกาลสงกรานต์ ไม่ได้ออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆได้ แต่เราก็ยังสามารถที่จะท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆชมความสวยงามของสถานที่นั้นได้โดยผ่านทางเว็ปไซต์ต่างๆ วันนี้ค่ะ เราจะพาเพื่อนๆ ไปท่องเที่ยวสถานที่สำคัญของประเทศไทย อีก 1 สถานที่ ซึ่งถือได้ว่า อยู่คู่บ้านคู่เมืองของประเทสไทยมานับหลายร้อยปี และอาจเป็นที่พึ่งทางจิดใจของใครหลายๆคนก็เป็นได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราทำความรู้จัก กับ วัดพระแก้ว หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กันดีกว่าค่ะ ว่ามีประวัติและมีความสำคัญอย่างไร

วัดพระแก้ว หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ วัดพระแก้วจัดเป็นวัดในพระบรมมหาราชวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส วัดพระแก้วนั้นตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับพระราชวังเดิมของกรุงธนบุรี

ภายในวัดพระแก้วนั้นมีอาคารสำคัญต่างๆและอาคารประกอบเป็นจำนวนมาก โดยแบ่งได้ 3 กลุ่ม ตามความสำคัญดังนี้

  1. กลุ่มพระอุโบสถ : เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญสูงสุด มี “พระอุโบสถ” เป็นอาคารประธาน เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต
  2. กลุ่มฐานไพที : มีอาคารหลักสามหลัง คือ ปราสาทพระเทพบิดร พระมณฑป พระศรีรัตนเจดีย์ และวัตถุประดับตกแต่งอื่น ๆ
  3. กลุ่มอาคารและสิ่งประดับอื่น ๆ : มีหอพระนาก พระเศวตกุฏาคารวิหารยอด หอมณเฑียรธรรม และจิตรกรรมฝาผนังที่พระระเบียง ซึ่งมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังจำนวน 178 ห้อง เรียงต่อกันยาวตลอดฝาผนังทั้ง 4 ทิศ

 

 

 

วัดพระแก้วนั้นเปิดให้ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าชมทุกวัน (ยกเว้นแต่จะมีพระราชพิธีต่างๆ) โดยเวลาที่เปิดให้เข้าชมนั้นเปิดตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.

จะมีการเปิดจำหน่ายตั๋วในการเข้าชม โดยที่ประชาชนชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องซท้อตั๋วชุด โดยจำหน่ายในราคาชุดล่ะ 500 บาท/ท่าน โดยที่ตั๋วชุดนั้นจะสามารถใช้ได้ภายใน 7 วันนับจากวันที่ซื้อ ส่วนเด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 120 ซม.เข้าชมฟรี โดยการจำหน่ายตั๋วนั้นมีเวลาปิดจำหน่ายตั๋ว คือเวลา 15.00 น. ของทุกวัน

การแต่งกายเข้าชมวัดพระแก้วนั้น จะต้องทำการแต่งกายให้สุภาพ ไม่สวมกางเกงขาสั้น กางเกงยีนส์ขาดๆ กระโปรงต้องไม่สั้นจนเกินไป เสื้อที่ใส่ต้องไม่ใช่เสื้อแขนกุด หรือเสื้อเอวลอย หรือเสื้อเปิดไหล่ หากทำการแต่งตัวไม่สุภาพ ทางพระราชวังจะจัดเตรียมเสื้อผ้าให้ยืมฟรี แต่จะมีค่ามัดจำชิ้นละ 200 บาท และเมื่อนำชุดมาคืนเจ้าหน้าที่ก็จะทำการคืนค่ามัดจำให้

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หวังว่า คงจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆไม่มาก็น้อยนะคะ